หนุ่มวัย 30 กล้าท้าพิสูจน์ COVID-19 อาจเป็นแค่เรื่องแหกตา สุดท้ายติดเชื้อจนเสียชีวิต

หนุ่มวัย 30 กล้าท้าพิสูจน์ COVID-19 อาจเป็นแค่เรื่องแหกตา
สุดท้ายติดเชื้อจนเสียชีวิต
หนุ่มวัย 30 กล้าท้าพิสูจน์ COVID-19 อาจเป็นแค่เรื่องแหกตา สุดท้ายติดเชื้อจนเสียชีวิตช่วงนี้ไม่ว่าใครก็คงไม่รู้จักเจ้า COVID-19 หรือโคราน่าไวรัส ที่แพร่ระบาดไปทั่วโลกที่ทำให้มีผู้ติดเชื้อมากกว่า 12.5 ล้านคน และเสียชีวิตไปแล้วไม่น้อยกว่า 560,000 ราย แต่ยังมีคนบางกลุ่มยังคิดว่า COVID-19 เป็นแค่เพียงเรื่องแหกตาประชาชน
ตัวอย่างของคนที่เชื่อว่าเป็นเรื่องแหกตาในลักษณะนี้นั้นคือชายหนุ่มชาวอเมริกันอายุ 30 ปี ที่อาศัยอยู่ในรัฐเท็กซัส (ไม่เอ่ยนาม) ที่มองว่าการรายงานข่าว และข่าวที่ประโคมกันเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของ COVID-19 นั้นเป็นแค่เรื่องโกหก ไม่เชื่อว่าไวรัสชนิดนี้นั้นไม่มีอยู่จริง หรืออาจไม่ถึงแก่ชีวิตเมื่อติดเชื้อ
จากความเชื่อแบบบผิดๆ ของเขา ทำให้เขาและคนอื่นๆ ในกลุ่มที่มีความเชื่อเหมือนๆ กัน ต้องการที่จะพิสูจน์ว่ามันเป็นอย่างที่พวกเขาคิดจริงหรือไม่ และได้ลองเข้าไปกลุ่มกับคนที่คิดว่าจะติดเชื้อ COVID-19 หลังจากชายคนดังกล่าวก็ได้รับเชื้อมา (ไม่มีรายงานว่าคนอื่นๆ ภายในกลุ่มของเขาได้รับเชื้อหรือไม่) และเมื่ออาการของเขาแย่ลงเป็นอย่างอย่างมาก ทำให้เขาต้องถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ก่อนที่จะเสียชิวิตลง
ดอกเตอร์ Jane Appleby หัวหน้ากลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ประจำศูนย์พยาบาล Methodist Healthcare กล่าวไว้ว่า คนไข้คนดังกล่าวได้ทำการตรวจเชื้อไวรัสถึง 2 ครั้ง เพื่อยืนยันว่าเขาได้ติดเชื้อ COVID-19 ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังแทบไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเองนั้นติดเชื้อ COVID-19 เพราะคิดว่าเรื่องไวรัสดังกล่าวนั้นเนเพียงแค่เรื่องแหกตา จนกระทั้งในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต เขาได้เปลี่ยนความคิดไปทันที
มารู้จักกับเจ้า COVID-19 กันไว้ดีกว่า ไวรัสโคโรนา (Coronavirus) เป็นไวรัสที่ถูกค้นพบครั้งแรกในปี ค.ศ.1960 แต่ยังไม่ทราบแหล่งที่มาชัดเจนว่ามาจากที่ใด แต่เป็นไวรัสที่สามารถติดเชื้อได้ทั้งในมนุษย์และสัตว์ ปัจจุบันมีการค้นพบไวรัสสายพันธุ์นี้แล้วทั้งหมด 6 สายพันธุ์ ส่วนสายพันธุ์ที่กำลังแพร่ระบาดหนักทั่วโลกตอนนี้ เป็นสายพันธุ์ที่ยังไม่เคยพบมาก่อน คือ สายพันธุ์ที่ 7 จึงถูกเรียกว่า “ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่” และในภายหลังถูกตั้งชื่อใหม่อย่างเป็นทางการว่า “โควิด-19” (COVID-19) นั่นเอง อาการเมื่อติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธ์ใหม่ หรือ COVID-19
อาการของไวรัส COVID-19 ที่สังเกตได้ง่ายๆ ด้วยตัวเอง ดังนี้
- มีไข้
- เจ็บคอ
- ไอแห้งๆ
- น้ำมูกไหล
- หายใจเหนื่อยหอบ

กลุ่มที่อาจมีความเสี่ยงติดเชื้อไวรัสโครานาสายใหม่ หรือ COVID-19
- เด็กเล็ก (แต่อาจไม่พบอาการรุนแรงเท่าผู้สูงอายุ)
- ผู้สูงอายุ
- คนที่มีโรคประจำตัวอยู่แล้ว เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคปอดเรื้อรัง
- คนที่ภูมิคุ้มกันผิดแกติ หรือกินยากดภูมิคุ้มค้านทานโรคอยู่
- คนที่มีน้ำหนักเกินมาตรฐานมากเกินไป (คนอ้วนมาก)
- ผู้ที่เดินทางไปในประเทศเสี่ยงติดเชื้อ เช่น จีน เกาหลี ญี่ปุ่น ไต้หวัน ฮ่องกง มาเก๊า สิงคโปรฺ มาเลเซีย เวียดนาม อิตาลี อิหร่าน สหรัฐอเมริกา ฯลฯ
- ผู้ที่ต้องทำงาน หรือรักษาผู้ป่วย ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือ COVID-19 อย่างใกล้ชิด
- ผู้ที่ทำอาชีพที่ต้องพบปะชาวต่างชาติจำนวนมาก เช่น คนขับแท็กซี่ เจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาล ลูกเรือสายการบินต่างๆ เป็นต้น
หากมีอาการ COVID-19 ควรทำอย่างไร?
- หากพึ่งเดินทางกลับจากพื้นที่เสี่ยง ควรกักตัวเองอยู่ในแต่ในบ้าน ไม่ออกไปข้างนอกเป็นเวลา 14-27 วัน เพื่อให้ผ่านช่วงเชื้อฟักตัว (เพื่อให้แน่ใจว่าไม่ติดเชื้อ)
- หากมีอาการของโรคที่เกิดขึ้นตาม 5 ข้อดังที่กล่าวมาก่อนหน้านี้ ควรพบแพทย์เพื่อทำการตรวจอย่างละเอียด และเมื่อแพทย์ซักถาม ให้ตอบตามความเป็นจริง ไม่ปิดบัง ไม่บิดเบียนข้อมูลใดๆ เพราะการตอบคำถามอย่างตรงไป ตรงมาจะทำให้แพทย์สามารถวินิจฉัยโรคได้อย่างถูกต้องและแม่นยำมากที่สุด

วิธีป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธ์ใหม่ หรือ COVID-19
- หลีกเลี่ยงการเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยง
- หลีกเลี่ยงการใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่มีอาการไอ จาม น้ำมูกไหล เหนื่อยหอบ หรือเจ็บคอ
- สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งเมื่ออยู่ในที่สาธารณะ
- งดจับตา จมูก ปาก ขณะที่ยังไม่ได้ล้างมือ
- หลีกเลี่ยงการใกล้ชิด สัมผัสสัตว์ต่างๆ โดยไม่มีการป้องกัน
- ระมัดระวังการสัมผัสพื้นผิวที่ไม่สะอาด แบะอาจมีเชื้อโรคเกาะอยู่ รวมถึงสิ่งที่มีคนจับบ่อยครั้ง เช่น ที่จับบน BTS, MRT, Airport Link ที่เปิด-ปิดแระตูในรถ กลอนประตูต่างๆ ก๊อกน้ำ ราวบันได ฯลฯ เมื่อจับแล้วอย่าเอามือสัมผัสหน้า และข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ เช่น โทรศัพท์มือถือ กระเป๋า
- รับประทานอาหารที่สุก สะอาด ไม่รับประทานอาหารที่ทำมาจากสัตว์หายาก
- ล้างมือให้สม่ำเสมอด้วยสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจล อย่างน้อย 20 วินาที ความเข้มข้นไม่น้อยกว่า 70%
COVID-19 มีสถานพยาบาลที่รับตรวจ ผู้ที่ “มีอาการป่วย” และ “มีประวัติเสี่ยง” สามารถตรวจได้ฟรีตามสิทธิ์รักษาพยาบาล แต่หากไม่เข้าเกณฑ์ตรวจฟรี จะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการตรวจเอง โดยจากข้อมูล มีจุดรับตรวจหาเชื้อ COVID-19 อยู่หลายแห่ง เช่น
โรงพยาบาลของรัฐ
- สถาบันบำราศนราดูร ค่าใช้จ่ายประมาณ 2,500 บาท
- สถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง กรมควบคุมโรค (สปคม.) 2,700 บาท
- โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ค่าใช้จ่ายประมาณ 3,000-6,000 บาท (ไม่มีอาการ ไม่รับตรวจ)
- โรงพยาบาลราชวิถี ค่าใช้จ่ายประมาณ 3,000-6,000 บาท
- โรงพยาบาลรามาธิบดี ค่าใช้จ่ายประมาณ 5,000 บาท
- โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ ค่าใช้จ่ายประมาณ 9,900 บาท
โรงพยาบาลเอกชน
- โรงพยาบาลกรุงเทพ 6,500-10,500 บาท
- โรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน ค่าใช้จ่ายประมาณ 5,000-10,000 บาท
- โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ประชาชื่น 6,500 บาท
- โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ บางแค 6,500 บาท
- โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ รัตนาธิเบศร์ 6,500 บาท
- โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล รัตนาธิเบศร์ 6,500 บาท
- โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ รามคำแหง 6,500 บาท
- โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ฉะเชิงเทรา 6,500 บาท
- โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ศรีบุรินทร์ 6,500 บาท
- โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ สระบุรี 6,500 บาท
- โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 3 อินเตอร์ 5,500 บาท
- โรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง 6,500 บาท
- โรงพยาบาลนครธน 6,500 บาท
- โรงพยาบาลนวมินทร์ ค่าใช้จ่ายประมาณ 7,300 บาท (ยังไม่รวมค่าบริการอื่น ๆ)
- โรงพยาบาลบางปะกอก 9 ค่าใช้จ่ายประมาณ 7,500-10,000 บาท
- โรงพยาบาลบางโพ 6,500 บาท
- โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ 10,500 บาท
- โรงพยาบาลเปาโลเมโมเรียล ค่าใช้จ่ายประมาณ 5,000 บาท
- โรงพยาบาลเปาโลเมโมเรียลเกษตร ค่าใช้จ่ายประมาณ 5,000 บาท
- โรงพยาบาลเปาโลเมโมเรียลโชคชัย 4 ค่าใช้จ่ายประมาณ 5,000 บาท
- โรงพยาบาลเปาโลเมโมเรียลสมุทรปราการ ค่าใช้จ่ายประมาณ 5,000 บาท
- โรงพยาบาลเปาโลเมโมเรียลรังสิต ค่าใช้จ่ายประมาณ 5,000 บาท
- โรงพยาบาลเปาโลเมโมเรียลพระประแดง ค่าใช้จ่ายประมาณ 5,000 บาท
- โรงพยาบาลพญาไท 1 ค่าใช้จ่ายประมาณ 7,300 บาท (ยังไม่รวมค่าบริการอื่น ๆ)
- โรงพยาบาลพญาไท 2 ค่าใช้จ่ายประมาณ 6,500 บาท
- โรงพยาบาลพญาไท 3 ค่าใช้จ่ายประมาณ 6,500 บาท
- โรงพยาบาลพระราม 9 ค่าใช้จ่ายประมาณ 5,000-10,000 บาท
- โรงพยาบาลพริ้นซ์สุวรรณภูมิ 5,500 บาท
- โรงพยาบาลแพทย์รังสิต ค่าใช้จ่ายประมาณ 8,000 บาท
- โรงพยาบาลรามคำแหง 6,500 บาท
- โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ค่าใช้จ่ายประมาณ 7,500 บาทขึ้นไป
- โรงพยาบาลวิภาวดี 6,500 บาท
- โรงพยาบาลเวชธานี 6,500 บาท
- โรงพยาบาลเวิลด์เมดิคัล 6,500 บาท
- โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท 6,500 บาท
- โรงพยาบาลสินแพทย์ รามอินทรา 6,500 บาท
- โรงพยาบาลสุขุมวิท 6,500 บาท
- โรงพยาบาลเอกชัย สมุทรสาคร 5,500 บาท
ในช่วงนี้ COVID-19 กำลังเป็นที่น่ากลัวของคนทั่วทุกมุมโลก ทุกคนอย่าลืมดูแลตัวเอง หมั่นออกกำลังกาย รักษาสุขภาพ ใช้หลัก Social-Distancing เพื่อตัวของเราเอง และคนรอบข้าง
ตอนนี้ในสถานการณ์หลังจากการระบาดของ Covid – 19 ทำให้การเรียนตอนนี้เป็นแบบการเรียนออนไลน์เกือบทั้งหมด ทำให้บางคนต้องหาซื้อ Notebook ใหม่ในบทความนี้จะมาแนะนำ Notebook เหมาะกับนักศึกษา ในช่าง Covid – 19